ประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัว(Privacy Notice)
สำหรับลูกค้า
บริษัท บิสซิเนส ไอเดีย จำกัด
มีความมุ่งมั่นในการดำเนินการด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
พ.ศ. 2562 และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง จึงได้จัดทำเอกสารการแจ้งรายละเอียดความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice)
เพื่อให้การปฏิบัติงานของบริษัทเกิดความโปร่งใสในการรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
รวมถึงเป็นไปตามกฎหมาย
และมาตรฐานสากลในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
รวมถึงกำหนดหลักเกณฑ์ในการให้ความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
และมาตรการในการบริหารจัดการ
การละเมิดสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสม
1. ขอบเขตและวัตถุประสงค์ของนโยบายนี้
บริษัทฯ จะเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเฉพาะเมื่อมีเหตุผลที่เหมาะสมในการดำเนินการ
และ/หรือ ที่กฎหมายกำหนดให้กระทำการได้ ซึ่งรวมถึงการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้กับบุคคลภายนอกด้วย
โดยมีวัตถุประสงค์หลัก ดังต่อไปนี้
1.1 เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา และก่อนที่บริษัทฯ จะเข้าทำสัญญาซื้อขายกับท่าน
1.2 เพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือภาระข้อผูกพันตามกฎหมาย
1.3 เพื่อการซื้อขาย การทำธุรกรรมทางการเงิน ด้านภาษี รวมถึงการประเมินความเสี่ยงในการลงทุนตามกระบวนการ
กฎหมาย และกฎเกณฑ์ที่บังคับใช้
1.4 เพื่อใช้ในการประมวลผลข้อมูลการชำระเงิน เรียกเก็บเงินหรือจ่ายเงิน
รวมถึงวัตถุประสงค์ทางบัญชีและการจัดการทางบัญชี การสอบบัญชีของบริษัท หรือกรณีการติดตามทวงหนี้
1.5 เพื่อการประเมินผลการปฏิบัติงาน การรายงานภายใน การรายงานภายใน การวิเคราะห์ข้อมูล
และการจัดการงานในการจ้างตามสัญญา
1.6 เพื่อการปฏิบัติตามกฎระเบียบ และการตรวจสอบธุรกิจของบริษัทฯ (ทั้งภายในและภายนอก)
1.7 เพื่อการรักษาความปลอดภัยแก่บริษัทฯ
1.8 เพื่อประโยชน์อันชอบธรรมตามกฎหมายของบริษัทฯ ที่จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
โดยยังคงคำนึงถึงสิทธิขั้นพื้นฐานของท่านนั้นไม่เหนือไปกว่าประโยชน์ของบริษัทฯ
1.9 เพื่อวัตถุประสงค์ใดวัตถุประสงค์หนึ่งโดยเฉพาะ ตามความยินยอมที่ท่านให้แก่บริษัทฯ
ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
1.10 เพื่อใช้ในการขนส่งสินค้า
2. คำนิยาม
ภายใต้นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ ฉบับนี้ ให้คำดังต่อไปนี้มีความหมายตามที่กำหนดด้านล่าง
“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง
ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ตัวอย่างเช่น ชื่อ นามสกุล
หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่ ข้อมูลการติดต่อ หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน เป็นต้น
“ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่กฎหมายกำหนดเป็นการเฉพาะ
ตัวอย่างเช่น เชื้อชาติ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนา หรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ
ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ
หรือข้อมูลอื่นใดทำนองเดียวกันที่กฎหมายกำหนด ซึ่งบริษัทฯ ต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ
“ฐานการประมวลผล” หมายถึง เหตุความจำเป็นในการประมวลผลข้อมูลตามมาตรา 24 และ 26
ของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ
“ประมวลผล” หมายถึง การดำเนินใด ๆ ต่อข้อมูลส่วนบุคคลของบุคลากรของบริษัทฯ
ซึ่งรวมถึงการเก็บรวบรวม, การใช้, การจัดเก็บ, การเปิดเผย และการลบข้อมูลส่วนบุคคล
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ ฉบับนี้ อาจมีการทบทวนปรับปรุงเมื่อใดก็ได้ตามที่จะได้แจ้งให้ท่านทราบ
ตามช่องทางที่เหมาะสมต่อไป
บริษัทฯ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (แต่ไม่จำกัดเพียง)ดังต่อไปนี้
- ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล อายุ หมายเลขบัตรประชาชน ข้อมูลการติดต่อ (เช่น อีเมล เบอร์โทรศัพท์
Social Media เป็นต้น) สัญชาติ รูปภาพหนังสือเดินทาง ลายมือชื่อ ภาพถ่าย
และรูปภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV)
- ข้อมูลทางการเงิน เช่น ข้อมูลบัญชีธนาคาร ที่อยู่เรียกเก็บเงิน
- บันทึกข้อมูลของลูกค้าและรายละเอียดการทำธุรกรรม เช่น ข้อมูลการซื้อสินค้าและบริการของบริษัทฯ หรือ
การใช้งานข้อมูลธุรกรรม ประวัติการทำธุรกรรม (อาทิ หมายเลขการทำธุรกรรม จำนวนเงินในการทำธุรกรรม วันที่
และสถานที่ที่มีการทำธุรกรรม เวลาที่มีการทำธุรกรรม รายละเอียดการชำระเงิน)
- ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ เช่น ที่อยู่ IP คุกกี้ บันทึกกิจกรรม ข้อมูลระบุตัวตน
และข้อมูลตำแหน่งทางภูมิศาสตร์
3. บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอย่างไร
บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลหลากหลายประเภท โดยประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ
เก็บรวบรวมนั้นขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และลักษณะของสินค้า บริการ และ/หรือ ธุรกรรม
ซึ่งแตกต่างกันออกไปในแต่ละประเภท
บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งข้อมูลที่หลากหลายดังต่อไปนี้ (แต่ไม่จำกัดเพียง)
- เมื่อท่านซื้อสินค้า และ/หรือ ขอรับบริการจากบริษัทฯ
- การสนทนาระหว่างท่าน และบริษัทฯ รวมถึงบันทึกการสนทนาผ่านทางโทรศัพท์ จดหมาย อีเมล บันทึกข้อความ
หรือวิธีการอื่นใด
- เมื่อท่านใช้งานเว็บไซต์ของบริษัทฯ หรือแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ รวมถึงการใช้คุกกี้และโปรแกรม
tracking อื่นๆ ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
- ข้อมูลที่ได้รับจากเอกสารประกันภัย หรือเอกสารอื่นๆ
- แบบสำรวจความเห็นของลูกค้า
- เมื่อท่านเข้าร่วมในการแข่งขัน หรือการส่งเสริมการตลาดของบริษัทฯ
ในบางกรณี บริษัทฯ อาจร่วมกับบุคคลภายนอกซึ่งไม่ใช่บริษัทในเครือของบริษัทฯ
เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เกี่ยวกับกิจกรรมออนไลน์เมื่อท่านเข้าเยี่ยมชมแหล่งข้อมูลออนไลน์ของบริษัทฯ
นอกจากนี้ บริษัทฯ อาจใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งเก็บรวบรวมผ่านทางเว็บไซต์อื่นๆ
ที่ไม่ได้อยู่ในเครือข่ายของบริษัทฯ
เพื่อวัตถุประสงค์ในการโฆษณาซึ่งวิเคราะห์แล้วว่าตรงกับพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ของท่านอีกด้วย อย่างไรก็ตาม
บริษัทฯ จะแจ้งและเปิดโอกาสให้ท่าน ปฏิเสธการประมวลผลข้อมูลเช่นว่านั้นได้
4. บริษัทฯ ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลอย่างไร
บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวม และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเฉพาะในกรณีที่บริษัทฯ
มีเหตุผลที่เหมาะสมในการดำเนินการเช่นว่านั้น ทั้งนี้ รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้กับบุคคลภายนอก
บริษัทฯ จะอาศัยฐานใดฐานหนึ่งดังต่อไปนี้ หรือมากกว่า ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
- เมื่อเป็นการปฏิบัติตามข้อตกลงในสัญญาที่บริษัทฯ ทำไว้กับท่าน
- เมื่อเป็นหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัทฯ
- เมื่อเป็นผลประโยชน์อันชอบธรรมของบริษัทฯ และ/หรือ
- เมื่อท่านให้ความยินยอม
วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังต่อไปนี้นั้น เป็นไปตามกฎหมาย และฐานทางกฎหมาย
ที่บริษัทฯ อาจเลือกใช้
วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล |
ฐานการประมวลผล |
1. เพื่อนำมาพัฒนาการให้บริการในด้านต่างๆ เช่น การจัดส่งพัสดุและผลิตภัณฑ์ต่างๆ
การให้ความช่วยเหลือ และการดำเนินการตามข้อร้องเรียนของท่านให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
และเพื่อการสำรวจและศึกษาความต้องการของท่าน เพื่อจัดโปรแกรมส่งเสริมการขายหรือโปรโมชั่นต่างๆ
ให้ตอบโจทย์ความต้องการของท่าน
|
|
2. เพื่อนำมาพัฒนาช่องทางการให้บริการออนไลน์ของบริษัทฯ เพื่อให้ท่านได้รับบริการจากบริษัทฯ
อย่างมีคุณภาพ รวดเร็ว และสะดวกสบายที่สุด
|
|
3. เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานหรือถ่ายโอนข้อมูลในบัญชี เลขที่สมาชิก หรือรหัสส่วนตัวต่างๆ
ที่บริษัทฯ ได้ให้บริการต่อท่าน ผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์และ/หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ
ได้มากกว่า 1 เครื่อง และเพื่อให้บริษัทฯ สามารถดูแลตรวจสอบการเข้าใช้งานบัญชี เลขที่สมาชิก
หรือรหัสส่วนตัวต่างๆ ของท่านได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการใช้งานโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือการเข้าใช้งานโดยบุคคลอื่น
หรือการใช้งานโดยฉ้อฉลหรือในทางมิชอบ รวมถึงเพื่อปรับปรุงการให้บริการของบริษัทฯ
ให้มีความเหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
|
- ฐานสัญญา
- ฐานประโยชน์โดยชอบธรรม
|
4. เพื่อนำเสนอข่าวสารที่น่าสนใจและอาจเป็นประโยชน์ต่อท่าน
รวมถึงการนำเสนอกิจกรรมส่งเสริมการขายหรือโปรโมชั่นต่างๆ
ที่จะช่วยให้ท่านได้รับการบริการและสิทธิประโยชน์ที่ดีที่สุดจากบริษัทฯ บริษัทย่อย บริษัทภายในเครือ
และ/หรือ พันธมิตรทาง ธุรกิจ
|
- ฐานความยินยอม
- ฐานประโยชน์โดยชอบธรรม
|
5. เพื่อวัตถุประสงค์ในทางการตลาดและการส่งเสริมการขาย การวิเคราะห์ข้อมูล การตลาด ดิจิตอล
โปรแกรมสมาชิก และ/หรือ โปรแกรมการให้รางวัล และ ข้อมูลที่เกี่ยวข้องการสินค้าและบริการของบริษัทฯ
รวมถึงการมีส่วนร่วมของท่านในกิจกรรมต่างๆ ที่บริษัทฯ ได้จัดขึ้น
เพื่อให้ท่านได้รับสิทธิประโยชน์ในการใช้บริการมากที่สุด โดยตั้งอยู่บนความพึงพอใจของท่านเป็นสำคัญ
โดยท่านสามารถแจ้งความประสงค์ของท่านต่อการใช้ข้อมูลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ในทางการตลาดที่กล่าวมาของบริษัทฯ
ได้ผ่านช่องทางที่บริษัทฯ บริษัทย่อย บริษัทในเครือ และ/หรือ พันธมิตรทางธุรกิจได้กำหนดไว้
|
|
6. เพื่อให้ท่านมีส่วนร่วมในโปรแกรมสมาชิก และ/หรือ โปรแกรมการให้รางวัล และกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง
และการสื่อสารที่ดำเนินการโดยบริษัทฯ บริษัทย่อย บริษัทในเครือ และ/หรือ
พันธมิตรทางธุรกิจได้กำหนดไว้
|
- ฐานสัญญา
- ฐานความยินยอม
- ฐานประโยชน์โดยชอบธรรม
|
7. เพื่อวัดประสิทธิภาพของนโยบายทางการตลาดของบริษัทฯ และเพื่อวัดประสิทธิผลของการโฆษณาของบริษัทฯ
ผ่านช่องทางสื่อออนไลน์ต่าง ๆ
|
|
8. เพื่อระงับข้อพิพาทหรือข้อขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นระหว่างบริษัทฯ
กับท่านอันเกี่ยวข้องกับการให้บริการของบริษัทฯ
|
|
9. เพื่อวัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมายและเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการให้บริการของบริษัทฯ แก่ท่านในฐานะเจ้าของข้อมูล
รวมถึงเพื่อวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบใด ๆ
|
- ฐานสัญญา
- ฐานหน้าที่ตามกฎหมาย
|
ในกรณีที่บริษัทฯ อาศัยฐานผลประโยชน์อันชอบธรรมของบริษัทฯ ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ
จะพิจารณาว่าประโยชน์ดังกล่าวของบริษัทฯ นั้น มีความสำคัญยิ่งกว่าสิทธิของท่านหรือไม่
และจะต้องสามารถสรุปได้ว่าประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญยิ่งกว่าสิทธิของท่าน
5. การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลร่วมกันกับหน่วยงานภายนอก
บริษัทฯ อาจมีความจำเป็นต้องส่ง และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าไปยังหน่วยงานภายนอกดังต่อไปนี้
เพื่อให้หน่วยงานภายนอกสามารถประมวลผลข้อมูลตามหน้าที่ความรับผิดชอบตามสัญญาที่มีกับอีกบริษัทฯและ/หรือหน้าที่ตามกฎหมาย
- ผู้ให้บริการทางการเงิน
- หน่วยงานรัฐบาล เช่น กรมสรรพากร, สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค, กรมสรรพสามิต เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ
จะไม่ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดนอกเหนือจากที่ได้แจ้งแก่ท่านในประกาศความเป็นส่วนตัวนี้
หากบริษัทฯ ประสงค์ที่จะเก็บรวบรวม ใช้ ส่ง
หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพิ่มเติมซึ่งไม่ได้ระบุในประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ บริษัทฯ
จะแจ้งและขอความยินยอมจากท่านก่อนการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว โดยที่ท่านมีสิทธิจะให้ความยินยอม
หรือไม่ก็ได้
บริษัทฯ จะปฏิบัติตามประกาศความเป็นส่วนตัวนี้อย่างเคร่งครัดต่อข้อมูลที่อยู่ในความครอบครองของบริษัทฯ
ซึ่งเกี่ยวข้องกับลูกค้าและนักลงทุนในอนาคต ปัจจุบัน และในอดีต
6. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
ข้อมูลถือเป็นทรัพย์สินของบริษัทฯ ดังนั้น บริษัทฯ
จึงให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นอย่างยิ่ง บริษัทฯ จะตรวจสอบ
และใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยขององค์กร ทั้งทางกายภาพ
และทางเทคนิคที่ทันสมัยอยู่เสมอเมื่อประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทฯ
ได้วางนโยบายและมาตรการควบคุมภายในเพื่อให้ท่านมั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะไม่สูญหาย ถูกทำลายโดยไม่ตั้งใจ
ถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด ถูกเปิดเผย และเข้าถึงโดยบุคคลทั่วไปและบุคคลที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อกับบริษัท
7. ระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ
จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตราบเท่าที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลดังกล่าว
กล่าวคือ เพื่อเหตุผลทางธุรกิจ และ/หรือ เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นเวลา 10 ปีภายหลังจากที่ท่านไม่ได้เป็นลูกค้าของบริษัทฯ
แล้ว ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ของบริษัทฯ ในการดำเนินข้อพิพาททางสัญญาใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นนั้นในระยะเวลาดังกล่าว
เว้นแต่กรณีที่มีเหตุผลทางกฎหมาย หรือเหตุผลทางเทคนิครองรับ บริษัทฯ
อาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้นานกว่า 10 ปีได้
ทั้งนี้ บริษัทฯ จะลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุถึงตัวตนของท่านได้ เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว
8. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลดังต่อไปนี้
- สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (Right of Access)
โดยท่านสามารถขอรับสำเนาข้อมูลของท่านและตรวจสอบว่าบริษัทฯได้ประมวลผลข้อมูลของท่านตามกฎหมายหรือไม่
- สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม (Right to Revoke Consent)
ในกรณีที่บริษัทฯขอความยินยอมของท่านเพื่อประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
- สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Object)
โดยท่านสามารถคัดค้านในกรณีที่บริษัทฯประมวลผลข้อมูลของท่าน
- ตามภารกิจสาธารณะ (Public Task) หรือตามประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interest)
- เพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง
- สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Erasure) โดยท่านสามารถขอให้ลบข้อมูล หรือทำลาย
หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้ ในกรณีดังต่อไปนี้
- เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
- เมื่อท่านถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและบริษัทฯไม่มีเหตุผล ตามกฎหมาย
ที่จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นได้ต่อไป
- เมื่อท่านคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแล้ว
- เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลได้ถูกประมวลผลโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
- สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Rectification)
โดยท่านสามารถขอแก้ไขข้อมูลของท่านให้ถูกต้อง
สมบูรณ์ และเป็นปัจจุบันได้ หากท่านพบว่าข้อมูลของท่านไม่ถูกต้อง สมบูรณ์ และเป็นปัจจุบัน
บริษัทฯไม่สามารถตรวจสอบและแก้ไขข้อมูลดังกล่าวได้ด้วยตนเอง
- สิทธิในการยื่นข้อร้องเรียน (Right to file a complaint)
ท่านมีสิทธิยื่นข้อร้องเรียนต่อหน่วยงานของรัฐ รวมไปถึงคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ในบางกรณีตามสภาพของการดำเนินการ บริษัทฯ อาจไม่สามารถดำเนินการได้ตามที่ท่านขอได้ เช่น
มีความจำเป็นต้องดำเนินการตามหน้าที่ตามสัญญาหรือกฎหมาย เป็นต้น
อย่างไรก็ดีในกรณีที่ท่านได้ให้ความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเอาไว้
ท่านสามารถถอนความยินยอมนั้นเมื่อใดก็ได้ด้วยการติดต่อไปยังส่วนงานที่เกี่ยวข้อง
โดยบริษัทฯจะยุติการประมวลผลข้อมูลดังกล่าวโดยเร็วที่สุด
แต่การถอนความยินยอมนั้นจะไม่มีผลเป็นการยกเลิกเพิกถอนการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ดำเนินการไปแล้ว
ทั้งนี้ขอให้ท่านรับทราบว่าเราจะบันทึกรายการต่าง ๆ
ที่ได้ดำเนินการเกี่ยวกับคำร้องของท่านเอาไว้เพื่อใช้ในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น
ในกรณีที่ท่านมีประสงค์จะใช้สิทธิดังกล่าวข้างต้น หรือมีข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
โปรดติดต่อที่คณะทำงานด้านการควบคุมข้อมูลส่วนตัวของบริษัทฯ ตามรายละเอียดที่ได้แจ้งไว้ด้านบน บริษัทฯ
จะรีบดำเนินการตามคำร้องของท่านโดยเร็วเพื่อให้สอดคล้องกับที่กฎหมายกำหนด
9. ความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ท่านจะต้องทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความครอบครองของบริษัทฯ มีความเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์
และถูกต้อง โดยจะต้องแจ้งบริษัทฯ เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ
โดยปรับปรุงแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยแจ้งผ่านอีเมลบริษัทฯ
(contactus@business-idea.co.th) หรือบริษัทฯ
จะขอให้ท่านปรับปรุงแก้ไขข้อมูลให้เป็นปัจจุบันเป็นครั้งคราว เพื่อให้ข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน
ถูกต้อง และสมบูรณ์
10. นโยบายสำหรับเด็ก
แอปพลิเคชัน/เว็บไซต์นี้ได้รับการออกแบบสำหรับผู้ใช้ที่มีอายุตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไปเท่านั้น
เราไม่ได้เก็บรวบรวมข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนได้จากเด็กอายุตํ่ากว่า 10 ปี หากท่านรู้ถึงข้อมูลใด ๆ
ที่เราเก็บรวบรวมมาจากเด็กอายุตํ่ากว่า 10 ปี กรุณาติดต่อเราโดยใช้ข้อมูลการติดต่อที่อยู่ด้านล่าง นอกจากนี้
หากเราทราบว่าเราได้เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากเด็กอายุตํ่ากว่า 10 ปี
เราจะดำเนินการลบข้อมูลดังกล่าวโดยเร็วที่สุด
11. ข้อยกเว้นและข้อจำกัดการให้บริการของบริษัทฯ
การเชื่อมโยงเว็บไซต์และบริการอื่นๆ
ในกรณีที่เว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของบริษัทฯ ได้มีการเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ภายนอกหรือเว็บไซต์ของบุคคลอื่นๆ
ท่านรับทราบว่า บริษัทฯ ไม่มีอำนาจในการควบคุมหรือกำหนด หรือตรวจสอบการดำเนินงาน
การให้บริการนโยบายความเป็นส่วนตัวและการคุ้มครองของข้อมูล การใช้หรือประมวลผลข้อมูลของท่านบนหน้าเว็บไซต์นั้นๆ
และบริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อข้อมูลของท่านบนหน้าเว็บไซต์ดังกล่าว
12. หน้าที่ของท่าน
ท่านมีหน้าที่ตรวจสอบว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้กับบริษัทฯ ไม่ว่าจะด้วยตัวของท่านเอง หรือในนามของท่าน
มีความถูกต้อง และเป็นปัจจุบัน และมีหน้าที่ต้องแจ้งให้บริษัทฯ
ทราบโดยเร็วที่สุดหากข้อมูลดังกล่าวมีการเปลี่ยนแปลง
เมื่อท่านเข้าทำสัญญากับบริษัทฯ แล้ว ท่านจะมีหน้าที่ตามสัญญาในการส่งมอบข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บริษัทฯ
เพื่อให้ท่านสามารถใช้สิทธิทางกฎหมายได้ การไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ดังกล่าวอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียสิทธิทางกฎหมาย
ท่านมีความจำเป็นที่จะต้องส่งมอบข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ข้อมูลการติดต่อ และข้อมูลการจ่ายเงินให้กับบริษัทฯ
เพื่อให้บริษัทฯ สามารถเข้าทำสัญญากับท่านได้ หากท่านไม่ส่งมอบข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว อาจทำให้บริษัทฯ
ไม่สามารถใช้สิทธิ และปฏิบัติตามภาระข้อผูกพันที่เกิดขึ้นจากสัญญาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
13. การจัดการกับเรื่องร้องเรียน
ท่านสามารถติดต่อบริษัทฯ เพื่อร้องเรียนเกี่ยวกับวิธีการที่บริษัทฯ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และ
บริษัทฯ จะพิจารณาคำขอของท่านโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ การเรื่องร้องเรียนต่อบริษัทฯ
นี้ไม่มีผลกระทบต่อสิทธิของท่านในการร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่รัฐ หรือคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
14. การทบทวนและปรับปรุงนโยบายนี้
เอกสารนี้เป็นนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับบุคลากรของบริษัทฯ ปรับปรุงล่าสุดเมื่อวันที่ 2 เมษายน
2567 บริษัทฯขอสงวนสิทธิในการทบทวนและปรับปรุงนโยบายนี้ตามที่เห็นสมควร
15. ช่องทางการติดต่อบริษัท
E – mail :
contactus@business-idea.co.th
เบอร์โทรศัพท์ :
0-2026-6539